ไม่ใช่เรื่องขี้ๆ ละจะหาว่าคุย…ฮิฮิ

ก่อนอื่น..บอกก่อนว่า คำถามบล็อคข้างล่างมีคำตอบนะ..ในเชิงคณิตศาสตร์ ไม่ใช่ปัญหาเชาวน์ ลองทำดูนะ อิอิ
 
 
วันนี้ ไปสวนลุมมากั๊บ…เนื่องจากสนใจเรื่องหนึ่ง..ที่แม่เก่ง Icyrose ในพันทิพย์นำเสนอ…ฟังแล้วเข้าท่า นาติดตาม และมีเหตุผลที่ทำให้สนใจยิ่งขึ้น เด๋วจะบอกให้ฟัง
หัวข้อที่ไปวันนี้ คือ การสอนเด็กให้เรียนให้เก่ง และการสอนเลขในเด็กเล็ก  sense of pattern sense of number
 
ให้นิยามเองว่า มันคือการเข้าใจความหมาย ของจำนวนและตัวเลข ทำไมต้อง sense ?? ก้อเพราะมันซึมซาบเข้าไปอยู่ในใจเด็กๆ นั่นเลยทีเดียวเชียว
 
ไม่ใช่เพื่อฝึกลูกให้เป็นอัจฉริยะ ถึงแม้ อัจฉริยะ จะสร้างได้ด้วยวิธีนี้
แต่เราไม่ได้อยากให้ลูกเป็นอัจฉริยะนี่นา เอาธรรมดาๆ คิดให้เป็น จะลอกข้อสอบเพื่อนบ้างแม่ก้อไม่ว่าน่ะลูก อย่าให้ครูจับได้พอ…เอาตรีนเขี่ยโพยไปไกลๆนะลูกนะ
 
พ่อธีร์ วิทยากรที่มาเล่าในวันนี้ น่าสนใจมาก
ก่อนไป ก้อได้ทำการบ้านไปส่วนหนึ่ง แต่รีบๆ อ่าน เพราะมีกระทู้ยาวห้าสิบกว่าหน้า ต้องอ่านก่อนไป..และบล็อคอีกจำนวนมากกกกกกกกกกของพ่อธีร์
 
เหตุผลที่สนใจ และไปวันนี้คือ..วิธีการคิดและสอนเด็กๆ ของพ่อธีร์ เป็นวิธีที่เราใช้กับตัวเอง ตอนเป็นเด็ก แต่..เราคิด(แบบมั่ว)ขึ้นมาเอง 
ไม่ได้โม้..โฮะๆๆ แต่ เราก้อไม่ใช่คนเดียวหรอก มีเด็กอีกหลายๆๆๆ คน รับรองว่า คิดวิธีบวกเลขคิดเลขขึ้นมาเอง โดยที่ไม่ต้อง เอาหนึ่งไว้ในใจ ยกนิ้วขึ้นมา 2 3 4 5
หรือ ท่องสูตรคูณเป็นนกแก้วนกขุนทอง เวลาทำการบ้าน
 
เรา ทำ แบบที่เค้าเรียกว่า mind maping ช่วยในการเรียน และการจำ..โดยที่เพิ่งจะรู้ว่า..ไอ่ที่ทำนั่นอะ เค้าเรียกว่า mind maping เมื่อไม่นานมานี้เองอะล่ะ
นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไม ตื่นเที่ยงไปนั่งลอกการบ้านเพื่อน ถึงจบมาได้แบบเฉียดฉิวเกียรตินิยม..ฮ่าๆๆ กูยกให้มึงอะ….ไอ่เอก..ตอนขึ้นแท่นรับพระราชทานปริญญาจะได้มีเวลานั่งหลับก่อนนานๆ เอิ๊กกกกก (ถ ถ ถ ถุยยยยยย)
 
เราทำเองโดยไม่มีระเบียบแผน ที่แน่นอน เส้นต้องโค้ง ต้องแตกออกไป รอบด้าน แต่ เท่าที่ดูแล้ว ไอ่ที่เราทำย่อๆ ในการจดเลกเช่อ มันคือ การคิดแบบ mind maping นั่นเอง..
หรือบางที เราใช้วิธี จำ หน้ากระดาษ เข้าไปทั้งหน้าในหัวเลย ไม่ใช่ท่องนะ…
จำ…มองแล้ว จำ….ละมานั่งหลับตานึก ว่า บรรทัดนี้อยู่ไหน แล้วยังไงต่อ
ถ้าข้อสอบออกมาเหมือนเด๊ะๆ ก้อหวานหมูเลยล่ะ หลับตาเขียน…เคยนะ..phy chem อ่านหนังสือไม่ทัน…นาทีสุดท้าย ก่อนหลับ ตัดสินใจ เอาวะ…ท่องข้อนี้ไปแหละ มันยาวดี แต่ไม่ใช่การมานั่งท่องปาวๆๆ นะ เราทำไงก้อบอกไม่ถูกว่ะ
นั่งจ้องหน้านั้นอยู่สักพักก่อนนอน….รุ่งขึ้นไปสอบ..หลับตานึกภาพแล้วเขียน..
ไม่รู้เรียกว่าอะไร..แต่คิดว่า แบบนี้ เค้าเรียก การจำแบบ pattern และรูปภาพ กระมัง 
และเวลาอ่านหนังสือ แบบเห็นตัวหนังสือเยอะๆ แล้วเรามึน ก้อมักจะเอามาย่อเอง เป็นโยงใย ลากเป็น root ต่อๆ กันออกไป แต่ไม่ถึงกะทุกทิศทุกทางเหมือน mind map ตามทฤษฎี แต่ก้อพอเป็นไอเดย ในการจำ ภาพความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ในหนังสือเรียน   เพราะแบบนี้ เลยอยากไปฟัง วิธีการนำมาปรับสอนในเด็กเล้กเอามากๆ เพราะ เราเรียนลัดด้วยตัวเองไปแล้วถึงจะไม่ได้ถึงที่สุด และไม่ได้ประสบความสำเร็จมากมาย..แถม สอนไม่เป็น ยิ่งสอนเด็กด้วยแล้ว…อายุ 2 ขวบ นี่ แค่จับมานั่งพูดคุยกัน..ยังพูดกันคนละภาษาเลยมั้ง
 
วันนี้ฟังพ่อธีร์เล่ามา..การสอนเลขในเด็กเล็ก  ออกแนวๆ จินตคณิต ก้อคล้ายๆ แบบนี้ คือ ให้เด็กเห็นภาพในหัว เห็นตัวเลข เป็นจำนวน ในหัว หรือ ใช้เม็ดลูกปัด หมากล้อม ใช้บล็อค แทนตัวเลข วางลงในกระดานโกะ(หรือตารางร้อยช่องในเบื้องต้น) เพื่อแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสสตร์  สมการสองตัวแปร แบบชิลๆ ในเด็กประถม หรือต่ำกว่า เลยเชียวล่ะ
 
ทำไม ต้อง สอน?? เร็วไปไหม?? สรุปสั้นๆ ให้ฟังว่า(ทฤษฎีไปหาอ่านกันเอาเองนะ)
เขา หลายๆ คน ว่า การที่เด็ก มี sense of pattern / number และอื่นๆ ที่ว่ามา เป็นพื้นฐาน ให้สมองสองด้านทำงาน แล้วมันจะดีเอง…
เรียนเลขเก่ง อย่างอื่นล่ะก้อหมูๆ
 
 
วิธีการละเอียดๆ ทำยังไง คงต้องไปหาอ่านกันเอาเอง…ทฤษฎีไม่แม่น สรุปคร่าวๆ สำหรับเด็กเล็ก วัยนี้ เอาเป็นว่า  สิ่งที่เราได้จากพ่อธีร์วันนี้ และจะนำมาสอนลูกในวัยขวบกว่าๆ ได้ก้อ คือ (ไม่แน่ใจว่าจับใจความมาได้ถูกต้องครบถ้วนหรือเปล่า ฟังไปจับมิวไป แต่ ก้อประมาณนี้ล่ะ)
 
sense of no.
 
เอาลูกปัด บล็อค หมาก อะไรก้อได้… 5 เม็ด ระวังอย่าให้เล็กมากเกินไป เดี๋ยวมันเอาไปยัดจมูก ยัดปากล่ะ ไว้ใจไม่ได้ ไอ่พวกลูกลิง
หยิบมา  1 เม็ด ให้ลูกดู….แล้วบอก นี่ หนึ่ง นะ ละเก็บขึ้น
หยิบมา 2  เม็ด ให้ลูกดู….แล้วบอก นี่ สอง นะ ละเก็บขึ้น
ทำไปจนครบ ห้าเม็ด
ใช้เวลาไม่มาก…
 
ทำจนกว่างัดออกมา 1 เม็ด ลูกตอบได้ว่า นี่ คือ 1 หรือ 2 3 4 5 ตามที่ วางลงไปนั่นแหละ นั่นคือ เค้ารู้ความหมายของ ตัวเลขแล้ว
ลองทดสอบเค้า ถ้าตอบได้ก้อผ่าน
 
ลืมบอกไปว่าการวางหมาก บางทีอาจจะวางเรียงขวาซ้าย บนล่าง ระเกะระกะ ไปมาไม่จำเป็นต้องมี รูปแบบที่แน่นอนตายตัวเสมอไป ให้ลูกเห็นว่า การเป็น 1,2,3,4,5 อาจจะมีหลายๆแบบ ไม่ใช่ต้องเรียงแบบนี้เท่านั้น  และสามารถจับความแตกต่างระหว่าง 1 ไป 2  2 ไป 3 ได้ด้วยสายตา และรู้ว่าทำไมมันถึงแตกต่าง มาจากความรู้สึก ไม่ใช่การนับ
 
ต่อมา…เริ่มใช้ตาราง เอาที่ 50 ช่อง ก่อนหน้าตาตาราง…หาเอา
เป็นตารางที่มีช่องพอวางหมากได้ สี่เหลี่ยมจตุรัส
ฝั่งซ้าย 5*5 สีนึง ฝั่งขวา 5*5 สีนึง  เขียนตัวเลขลงไปที่มุมตาราง ก้อจะได้ตารางเลข 1-50
1 2 3 4 5           6 7 8 9 10
11 12 13 14 15  16 17 18 19 20
22 23 23 24 25  26 27 28 29 30
อะไรประมาณนี้ ซ้ายขวาคนละสี แต่ต่อกันนะ เหมือนปฏิทินนั่นแหละ ไว้ว่างๆ จะหามาให้ดู
 
เด็กเล็ก เริ่มวางหมากทีละเม็ด สอน 1-20 ก่อน จากนั้น ค่อยว่ากัน…ศึกษาเพิ่มเติมกันไป
วางหมากลงในช่อง ทีละเม็ด แล้วสอน ว่านี่คือ 1 2 3 4 5 20 นี่คือการสอน sense of pattern
อีกหน่อย เลขจะเลือนหายไป เหลือแต่รูปแบบการเรียงหมากในหัวของเด็ก…โฮะๆๆๆๆ คุ้นๆมะ..ใครเคยอ่านฮิคารุบ้าง…
อะไรแนวๆ นั้นแหละ
ยี่สิบ ไม่ใช่เลขสองและศูนย์ แต่คือหมากยี่สิบตัว
พวกนี้จะนำไปสู่การ คูณ บวก ลบ หาร เลข สูตรคูณ แบบไม่ต้องท่อง ต่อไปถึงการแก้สมการสองตัวแปร โดยการใช้หมาก/เบี้ย อีกด้วย
 
 
ต่อมา อันนี้เบบี้จีเนียสก้อมีสอน การลากมือไปตามตัวเลข
เขียนเลขตัวโตๆ ลงบนกระดาษ อันนนี้ที่ รร. เจ้ามิวมิว ใช้แผ่นรองคลานที่มีจิ๊กซอว์ตัวเลข
จับมือลูกลากไปตามตัวเลข ให้สัมผัสพื้นผิวก้อดี เห็นพ่อธีร์ว่า เด็กออ ก้อใช้กระดาษทรายละเอียดๆ มาตัด เป็นตัวเลขแปะให้สัมผัส แล้วบอกเค้าว่า นี่ คือเลขอะไร
ที่เบบี้จีเนียส จะให้แกะตัวเลขอออกแล้ว แล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ รวมไปถึงการสะกดตัวเลขนั้นๆ ด้วย เช่น S i x    6
 
ต่อมา..นอกจากการสอนตัวเลขแล้ว ต้องสอนอ่านควบคู่กันไปด้วย ถ้าเด็กบวกเลขเป็น แต่อ่านโจทย์ไม่ออก ตีความไม่ได้ ก้อไม่ดี ทักษะด้านภาษาเลยสำคัญ
เป็นเรื่องไม่น่าสนุกสำหรับเรา Flash card พ่อธีร์แนะนำว่า เริ่มทีละ 5 คำ อาจจะเลือกคำมาจากหนังสือนิทานที่อ่านให้เค้าฟังบ่อยๆ  ยกให้เค้าดู ลากนิ้วตามไปด้วย จน พอเค้าเห็นแล้วบอกได้ว่า คำนี้คืออะไรนั่นแหละ ค่อยเปลี่ยนคำ
 
 
อันสุดท้าย อะไรหว่า ลืม..
 
บล็อค..เวลาเล่นกะลูก ก้อลองหยิบมาวางรูปแบบต่างๆ  แล้วหยิบออก ให้ลูกวางตาม อันนี้ ก้อ เป็นการสอน isometrix น่ะ พวกข้อสอบ IQ ชอบมี เริ่มจากง่ายๆ 3 ลูกก่อน ละค่อยๆ เพิ่มขึ้น
 
ประมาณนี้แหละ  ไซแน่บ ลั่นเปรี๊ยๆ แน่นอน…โฮะๆๆๆๆ
 
กิจกรรมที่มาด้านบน ถ้าจะทำแบบจริงจัง ควรจะจับเวลาและบันทึกเวลาไว้ด้วย ดูความเปลี่ยนแปลงของลูกในการตอบ เช่น มองปุ๊บ ตอบปั๊บ ไรงี้
 
ช่วงนี้ มิวมิวฮิตเล่นร้อยเชือก ได้มาวันแรก…ยังร้อยไม่เป็นหรอก แต่ดูดีกว่าให้เล่นหยอดบล็อคมากมาย..มันขว้างบล็อคเททิ้งเป็นว่าเล่น ร้อยเชือกยังดูงง งวย น่าสนใจกว่า….
 
ที่ว่ามาทั้งหมด สอนสักวันละ สิบห้านาที
จับลูกนั่งตัก หันหน้าออก แล้วสอน..
กอด จูบ หอมแก้ม เรียกสมาธิ กันเป็นพักๆ  เขาว่ามา ว่า ตอนที่ยากที่สุด คือ กว่าลูกจะสนใจนี่แหละ ถ้าผ่านไปได้ ก้อโลดด
 
ไว้เราไปลอกการบ้านเลคเช่อแม่คนอื่นๆละจะมาบอกใหม่
 
ชอบความคิดอีกอย่างหนึ่งของพ่อธีร์คือ เราอยากให้เด็กๆรุ่นเรารู้สึกว่า ความรู้สามารถแบ่งปันกันได้ เริ่มจากกลุ่มเล็กๆ ไม่ใช่อะไรๆ ก้อ ติว ชม.ละ 500 โดยนักเรียนอัจฉริยะทั้งหลายแหล่
 
 
ปล. หลังจากวันก่อนส่งการบ้านพ่อธีร์ไปแล้ว เลยเอามาอวด…อิอิอิอิ
 
 อัพบล็อคแบบใหม่ version mind map ^_^
 

2 thoughts on “ไม่ใช่เรื่องขี้ๆ ละจะหาว่าคุย…ฮิฮิ

  1. มาเยี่ยมครับ ขำมากมากครับตอนนี้
     

    ""ไม่ใช่เพื่อฝึกลูกให้เป็นอัจฉริยะ ถึงแม้ อัจฉริยะ จะสร้างได้ด้วยวิธีนี้
    แต่เราไม่ได้อยากให้ลูกเป็นอัจฉริยะนี่นา เอาธรรมดาๆ คิดให้เป็น จะลอกข้อสอบเพื่อนบ้างแม่ก้อไม่ว่าน่ะลูก อย่าให้ครูจับได้พอ…เอาตรีนเขี่ยโพยไปไกลๆนะลูกนะ"
     
    สมัยเรียน หนังสือ ห้องสอบมันมีพัดลม ร้อนก็ร้อน เพื่อนกลัว ฝิ่น(โพย)  ปลิว ก็ยกมือบอกว่า
     
    ผมไม่สบายครับ ขอ ปิดพัดลมครับ 555555 มันหนาวววววววววววววววววววววววววว

ใส่ความเห็น